หลักสูตรปริญญาโท

3.2.1 การปฐมนิิเทศเชิิงปฏิิบััติิการบััณฑิิตศึึกษา

              การปฐมนิเทศเชิงปฏิบัติการบัณฑิตศึกษา เป็นกิจกรรมภาคบังคับนักศึกษาทุกคนที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาแล้ว จะต้องเข้ารับการปฐมนิเทศเชิงปฏิบัติการบัณฑิตศึกษา ตามวัน เวลา ที่่มหาวิทยาลัยกำหนดก่อนเปิดภาคการศึกษาแรก เพื่อทำความเข้าใจในวิธีการศึกษาทางไกลระดับบัณฑิตศึกษารายละเอียดของโครงสร้าง เนื้อหาสาระ และกระบวนการศึกษาตามหลักสูตร รวมทั้งการปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาวิชาการเพื่่อวางแผนการเรียนร่วมกัน กิจกรรมนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในหลักสูตร

3.2.2 การลงทะเบียนเรียนและศึกษาชุดวิชา (สัมมนาเสริม/เข้ม)

                 1) การลงทะเบีียนเรีียน ตามที่หลักสูตรปริญญาโท กำหนดจำนวนชุดวิชาและหน่่วยกิตของแต่ละแผนการศึกษาไว้ คือ แผน 1 จะต้องลงทะเบียนเรียนไม่ตํ่ากว่า 4 ชุดวิชา (24 หน่่วยกิต) ชุดวิชาวิทยานิพนธ์์ (12 หน่วยกิต) และแผน 2 จะต้องลงทะเบียนเรียนไม่ต่ำกว่า  5 ชุดวิชา (30 หน่วยกิต) ชุดวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ (6 หน่วยกิต) ในแต่ละภาคการศึกษานักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนไม่ตํ่ากว่่า  1 ชุดวิชา โดยทุกหลักสูตรกำหนดโปรแกรมการศึกษาไว้ให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียน 2 ชุดวิชา ต่อภาคการศึกษา หากนักศึกษาลงทะเบียนเรียนตามที่่แต่่ละหลักสูตรกำหนดสามารถสำเร็จการศึกษาตามระยะเวลาที่่กำหนด ถ้านักศึกษาไม่สามารถลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษา ขอให้แจ้งมหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติรักษาสถานภาพการศึกษา สำหรับกำหนดการและเอกสารการลงทะเบียนเรียนมหาวิทยาลัยจะแจ้งและจัดส่งให้นักศึกษาทุกปีการศึกษา          
             2) การศึกษาชุดวิชา หลังจากที่่นักศึกษาลงทะเบียนเรียนแล้ว จะได้รับเอกสารประมวลสาระชุดวิชาแนวการศึกษา และแผนกิจกรรมการศึกษา นอกจากนี้บางชุดวิชาอาจจะมีสื่่ออื่น ๆ ประกอบในการศึกษาด้วย นักศึกษาสามารถศึกษาได้จากแนวการศึกษาและประมวลสาระชุดวิชา แต่่ละชุดวิชาจะมีเนื้อหาสาระประมาณ 15 หน่วย แต่ละหน่วยจะต้องใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 – 18 ชั่วโมง ซึ่่งนักศึกษาจะต้องศึกษาจากแนวการศึกษาและประมวลสาระควบคู่่กันไป โดยนักศึกษาควรศึกษาคำแนะนำในการศึกษา ขอบข่่าย วัตถุประสงค์ แผนการสอนประจำหน่่วยแผนการสอนประจำตอน สาระสังเขป (ในแนวการศึกษา) เนื้อหาสาระแต่่ละตอน (ในประมวลสาระชุดวิชา) และจะต้องปฏิบัติกิจกรรมในแนวการศึกษาไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้การศึกษาระดับปริญญาโทมุ่่งเน้นให้นักศึกษาต้องทำการค้นคว้าด้วยตนเอง จากสื่่อเสริมและแหล่งค้นคว้า
              นอกจากการศึกษาจากสื่่อต่าง ๆ แล้ว มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมที่่ช่่วยเสริมในส่วนที่่เป็นทักษะพิสัยและเจตพิสัย ซึ่่งไม่สามารถทดแทนด้วยสื่่ออื่นได้ เพราะเป็นส่วนที่่ต้องมีการพบปะสนทนาโต้ตอบ อภิปรายแลกเปลี่่ยนผลงานและประสบการณ์ระหว่่างอาจารย์ผู้สอนกับนักศึกษา และระหว่่างนักศึกษาด้วยกันจึงจะบรรลวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนซึ่งกิจกรรมในส่่วนนี้เรียกว่่า กิจกรรมปฏิสัมพันธ์ ได้แก่่ การสัมมนาเสริมและการสัมมนาเข้มกิจกรรมปฏิสัมพันธ์นี้ แต่ละชุดวิชาได้กำหนดไว้้ 1 – 3 ครั้ง ตามวัตถุประสงค์์ของชุดวิชาโดยนักศึกษาจะต้องเข้าร่่วมกิจกรรมทุกครั้ง เพราะเป็นกิจกรรมที่ให้นักศึกษาส่งงานและเสนอผลงานซึ่งกำหนดไว้ในเอกสาร “แผนกิจกรรมการเรียนและแนวการศึกษา”

3.2.3 การสอบประจำชุุดวิชา (สอบปลายภาค)

                 1) การสอบปกติ นักศึกษาจะต้องสอบตามวัน เวลา ที่่มหาวิทยาลัยกำหนด ทั้งนี้นักศึกษาสามารถตรวจสอบวัน เวลา และสถานที่่สอบได้ที่่ http://www.stou.ac.th/thai/grad_stdy/Masters/       
             2) การสอบทดแทน กรณีที่่นักศึกษามีความจำเป็นไม่สามารถมาเข้าสอบได้ตามวัน เวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด นักศึกษาสามารถยื่น คำร้องขอสอบทดแทนได้ที่สำนักบัณฑิตศึกษา พร้อมชำระค่าธรรมเนียมการสอบชุดวิชาละ 3,000 บาท มาพร้อมหลักฐานแสดง ความจำเป็นที่่แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถเข้าสอบตามวัน เวลาที่่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น ใบรับรองแพทย์ คำสั่งย้ายราชการด่่วน หนังสือรับรองการเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น ภายใน 7 วัน หลังจากวันสอบประจำภาคการศึกษา ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติการสอบทดแทนสาขาวิชาจะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี

3.2.4 การลงทะเบีียนเรีียนและศึึกษาชุุดวิิชาวิิทยานิิพนธ์  (แผน 1)

                 สำหรับนักศึกษา แผน 1 ต้องลงทะเบียนเรียนชุดวิชาวิทยานิพนธ์ตามลำดับดังนี้ วิทยานิพนธ์ 1 วิทยานิพนธ์ 2 วิทยานิพนธ์ 3 และวิทยานิพนธ์ 4 การลงทะเบียนเรียนชุดวิชาวิทยานิพนธ์ มีรายละเอียดดังนี้
              1) ชุุดวิชาวิิทยานิิพนธ์์ นักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนวิทยานิพนธ์์ 1 ได้ต่่อเมื่่อนักศึกษาเรียนครบหรือสอบผ่านชุดวิชาตามที่่ระบุไว้ในหลักสูตรหรือตามที่่สาขาวิชากำหนด และได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาให้ลงทะเบียนเรียนชุดวิชาวิทยานิพนธ์
                    (1) จุุดมุ่่งหมายของการศึึกษาชุุดวิิชาวิิทยานิิพนธ์์ เพื่่อสร้างเสริมประสบการณ์การวิจัยให้แก่นักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีจุดเน้นในด้านการจัดทำโครงการวิทยานิพนธ์   ดังนี้
                        (1.1) สามารถเลือกปัญหาการวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์
                        (1.2) สามารถสำรวจและวิเคราะห์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่่จะทำวิทยานิพนธ์
                        (1.3) สามารถออกแบบการวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์์
                        (1.4) มีความรู้และทักษะในการเขียนและเสนอโครงการวิทยานิพนธ์
                        (1.5) สามารถพัฒนาเครื่่องมือเพื่่อการวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์
                        (1.6) สามารถรวบรวม วิเคราะห์ นำเสนอข้อมูลสำหรับวิทยานิพนธ์
                        (1.7) สามารถนำเสนอและสอบปกป้องวิทยานิพนธ์
                        (1.8) สามารถเขียนรายงานวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์
                        (1.9) สามารถเขียนรายงานการวิจัยเพื่่อการเผยแพร่่
                        (1.10) สามารถนำเสนอและเผยแพร่่ผลงานวิจัยในเวทีสาธารณะ
                  (2) กระบวนการศึึกษาชุุดวิิชาวิิทยานิิพนธ์์ มหาวิทยาลัยจะจัดการสัมมนาเข้มแก่นักศึกษาตามช่วงเวลาต่่าง ๆ กัน โดยการจัดสัมมนาเข้มชุดวิชาวิทยานิพนธ์์เพื่่อให้มีการพบปะแบบเผชิญหน้าระหว่างนักศึกษากับคณะอาจารย์ที่่ปรึกษา และระหว่่างนักศึกษาด้วยกัน เพื่่อแลกเปลี่่ยนเรียนรู้ในการทำวิทยานิพนธ์ตามขั้นของการลงทะเบียน ดังนี้
                     ขั้นที่่ 1: วิิทยานิิพนธ์์ 1 (3 หน่่วยกิิต) การเลือกปัญหาการวิจัย การสำรวจและวิเคราะห์วรรณกรรมที่่เกี่่ยวข้องการออกแบบการวิจัย การเขียนและเสนอโครงการวิทยานิพนธ์
                    ขั้นที่่ 2: วิิทยานิิพนธ์์ 2 (3 หน่่วยกิิต) การพัฒนาเครื่่องมือเพื่่อการวิจัยสำหรับวิทยานิพนธ์
                    ขั้นที่่ 3: วิิทยานิิพนธ์์ 3 (3 หน่่วยกิิต) การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์์ข้อมููล และการนำเสนอข้อมูล วิทยานิพนธ์
                    ขั้นที่่ 4: วิิทยานิิพนธ์์ 4 (3 หน่่วยกิิต) การนำเสนอและสอบปกป้องวิทยานิพนธ์การเขียนรายงานวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ และการเขียนรายงานการวิจัยเพื่่อการเผยแพร่
             (3) การสอบปกป้องวิิทยานิิพนธ์์ เมื่่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ให้ความเห็นชอบรายงานฉบับสมบูรณ์แล้ว นักศึกษาจะต้องเสนอรายงานวิทยานิพนธ์ จำนวน 3 – 4 ชุด (จำนวนรายงานวิทยานิพนธ์ขึ้นอยู่กับจำนวนคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์) ให้สาขาวิชาที่นักศึกษาสังกัด เพื่่อจะจัดส่่งให้คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์พิจารณาล่่วงหน้าก่อนวันสอบปกป้องวิทยานิพนธ์์ 45 วัน การสอบวิทยานิพนธ์จะกระทำในรูปของการสัมมนาเข้มระหว่างนักศึกษากับคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมรับฟังการสอบ วิทยานิพนธ์ดังกล่่าวทั้งนี้คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์จะต้องเข้าร่วมการสอบและประเมินผลวิทยานิพนธ์ในวันสอบทั้งคณะ มิฉะนั้นถือว่่าการสอบวิทยานิพนธ์นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเป็นโมฆะ การประเมินผลสอบวิทยานิพนธ์ถือว่าผ่านเมื่่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์โดยประเมินจากคะแนนเสียงข้างมาก
           4) การส่งรายงานวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ หลังจากสอบผ่านแล้ว นักศึกษาจะต้องปรับแก้รายงานวิทยานิพนธ์ตามที่่คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ให้ข้อเสนอแนะ พร้อมส่่งไฟล์วิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์เข้าตรวจสอบการคัดลอกผลงานจากวิทยานิพนธ์ผ่่านโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ และส่่งให้อาจารย์ที่่ปรึกษาหลักพิจารณาตามแบบที่่มหาวิทยาลัยกำหนด ก่่อนส่งให้ฝ่่ายส่่งเสริมมาตรฐานบััณฑิตศึกษาตรวจรูป แบบครั้งสุดท้ายก่อนทำปกเข้าเล่ม กำหนดการส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ นักศึกษาต้องส่งภายในภาคการศึกษาที่่มีการรับรองวิทยานิพนธ์หากไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ต้องส่่งภายในภาคการศึกษาถัดไป กรณีไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ถือว่่าการสอบวิทยานิพนธ์นั้นเป็นโมฆะ
              (5) การเผยแพร่่ผลงาน ผลงานวิทยานิพนธ์จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่่างน้อยดำเนิินการให้้ผลงานหรืือส่่วนหนึ่่งของผลงานได้้รัับการยอมรัับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่่งพิมพ์ทางวิชาการ หรือเสนอต่่อที่่ประชุมวิิชาการที่่มีีรายงานการประชุม (Proceedings) โดยบทความที่่จะตีีพิมพ์์ต้้องได้้รัับความเห็็นชอบจากอาจารย์์ที่่ปรึกษาวิิทยานิิพนธ์์หลัักก่่อนดำเนิินการเผยแพร่่

3.2.5 การลงทะเบีียนเรีียนและศึึกษาชุุดวิิชาการศึึกษาค้้นคว้้าอิิสระ (แผน 2)

                เนื่่องจากแผน 2 เป็นแผนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่่ไม่เลือกทำวิทยานิพนธ์ แต่่มีความสนใจในด้านการวิจัยและนำผลการวิจัยไปประยุกต์์ใช้ในวิชาชีพ ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้ศึกษาชุดวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ 
               1) จุุดมุ่่งหมายของการศึึกษาชุุดวิชาการศึึกษาค้นคว้าอิสระ เป็นชุดวิชาที่่กำหนดให้นักศึกษาทำการศึกษาค้นคว้าเพื่่อสร้างเสริมประสบการณ์์ให้แก่่นักศึกษาที่่ไม่ใช่เป็นการทำวิทยานิพนธ์โดยมีวัตถุประสงค์จะผลิตมหาบัณฑิตที่่มีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์์และประยุกต์งานวิจัยหรืองานวิชาการหรือมีทักษะในการคิดค้นประดิษฐ์์นวัตกรรมเพื่่อเป็นประโยชน์์ในแวดวงวิชาการและวิชาชีพ โดยนักศึกษาสามารถเลือกประเภทของการศึกษาค้นคว้าอิสระได้ตามความสนใจและความถนัดของนักศึกษา ภายใต้การให้คำแนะนำและความเห็นชอบจากอาจารย์์ที่่ปรึกษาการศึกษาค้นคว้าอิสระ
            2) กระบวนการศึึกษาชุุดวิชา มหาวิทยาลัยกำหนดให้นักศึกษาเข้ารับการสัมมนาเข้ม 2 ครั้ง ดังนี้
                (1) การสัมมนาเข้มเพื่่อเสนอโครงการศึกษาค้นคว้าอิสระ นักศึกษาจะต้องส่งแบบขออนุมัติทำการศึกษาค้นคว้าอิสระ และเสนอโครงร่างการศึกษาค้นคว้าอิสระต่อสาขาวิิชา เมื่่อนักศึกษาได้รับกำหนดการสัมมนาเข้มแล้ว จะต้องเตรียมตัวเพื่่อเสนอหัวข้อและโครงร่่างการศึกษาค้นคว้าอิสระ โดยมหาวิทยาลัยจะจัดอาจารย์ที่่ปรึกษาให้นักศึกษา และจัดให้มีการสัมมนาเข้มเพื่่อเสนอหัวข้อและโครงร่่างการศึกษาค้นคว้าอิสระ ทั้งนี้เพื่่อให้อาจารย์ที่่ปรึกษากับนักศึกษาได้ร่วมกันพิจารณา เมื่่อโครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติแล้วนักศึกษาสามารถดำเนินการศึกษาตามโครงการและจัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระเสนอมหาวิทยาลัยต่อไป
              (2) การสัมมนาเข้มเพื่่อเสนอผลการศึกษาค้นคว้าอิสระ เป็นการพิจารณาผลการศึกษาค้นคว้าอิสระที่่นักศึกษาจัดทำมา อาจารย์ที่่ปรึกษาจะพิจารณาให้มีการสอบชุดวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ โดยมหาวิทยาลัยจะแต่่งตั้งคณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระ  นักศึกษาสามารถสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระได้ในช่วงของการมาเข้ารับการสัมมนาเข้มชุดวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้ หรือนัดสอบภายหลังก็ได้ ทั้งนี้ อาจารย์ที่่ปรึกษาจะพิจารณา
                 จากความพร้้อมและผลงานของนักศึกษา การสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระจะกระทำในรููปของการสัมมนาเข้มระหว่างนักศึกษากับคณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมรับฟังการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระดังกล่าวด้วย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระจะต้องเข้าร่วมการสอบและประเมินผลการศึกษาค้นคว้าอิสระในวันสอบทั้งคณะ มิฉะนั้นถือว่่าการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเป็นโมฆะ การประเมินผลสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระจะถือว่าผ่่่าน เมื่่อได้รับผลประเมินจากคณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระผ่านเป็นเอกฉันท์
             (3) การส่่งรายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ หลังจากสอบผ่านแล้ว นักศึกษาจะต้องปรับแก้รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระตามที่่คณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระให้ข้อเสนอแนะ พร้อมส่งไฟล์การศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์เข้าตรวจสอบการคัดลอกผลงานจากการศึกษาค้นคว้าอิสระผ่่านโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ และส่่งให้อาจารย์ที่่ปรึกษาหลักพิจารณาตามแบบที่่มหาวิทยาลัยกำหนดก่อนส่่งให้ฝ่่ายส่่งเสริมมาตรฐานบัณฑิตศึกษา ตรวจรูป แบบครั้งสุดท้ายก่อนทำปกเข้าเล่่ม กำหนดการส่งการศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์์นักศึกษาต้องส่่งภายในภาคการศึกษาที่่มีการรับรองการศึกษาค้นคว้าอิสระ หากไม่่สามารถดำเนินการได้ทันต้องส่่งภายในภาคการศึกษาถัดไป กรณีไม่สามารถดำเนินการได้ให้ถือว่่าการสอบการศึกษาค้นคว้าอิสระนั้นเป็นโมฆะ
          (4) การเผยแพร่่ผลงาน ผลงานจากการศึกษาค้นคว้าอิสระหรือส่่วนหนึ่่งของการศึกษาค้นคว้าอิสระต้องได้รับการเผยแพร่่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่่งที่่สืบค้นได้ โดยบางหลักสูตร/สาขาวิชาอาจกำหนดให้ผลงานการศึกษาค้นคว้าอิสระจะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ผลงานหรือส่่วนหนึ่่งของผลงานได้รับการยอมรับให้้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่่งพิมพ์ทางวิิชาการ หรือเสนอต่อที่ประชุมวิชาการที่มีรายงานการประชุม (Proceedings) โดยบทความที่่จะส่่งตีพิมพ์จะต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาหลักก่อนดำเนินการเผยแพร่

3.2.6 การสอบประมวลความรู้้

            นักศึกษาที่่เรียนแผน ข จะต้องสอบประมวลความรู้เมื่่อสอบผ่านชุดวิชาครบตามหลักสูตรหรือกำลังศึกษาชุดวิชาในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีคะแนนเฉลี่่ยสะสมไม่น้อยกว่่า 3.00 (แต่ละชุดวิชาต้องได้รับการประเมินผลไม่ตํ่ากว่า 2.00 หากได้ตํ่ากว่่า 2.00 ถือว่าสอบไม่ผ่่านและต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ในชุดวิชานั้น จนกว่่าจะสอบผ่่าน) การสอบประมวลความรู้ให้มีการสอบข้อเขียนเป็นหลัก ส่วนการสอบปากเปล่่าให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาประจำสาขาวิชา (ยกเว้น สาขาวิชาวิทยาการจัดการ และสาขาวิชานิเทศศาสตร์การสอบปากเปล่าถือเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร) การสอบข้อเขียนประกอบด้วย 2 ส่วน คือภาคทฤษฎีและภาคประยุกต์ โดยมีระยะเวลาในการสอบรวมกััน ไม่่น้อยกว่่า 6 ชั่วโมง สำหรับสาขาวิชาวิทยาการจัดการนักศึกษาต้องสอบข้อเขียนทั้ง 2 ส่่วนคือ ภาคทฤษฎี และภาคประยุกต์์ ผ่านก่อนจึงจะมีสิทธิิ์สอบปากเปล่่า 

 3.2.7 การอบรมเข้้มประสบการณ์์วิิชาชีีพ/เสริิมประสบการณ์์มหาบััณฑิิต

              นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทุกคนจะต้องเข้ารับการอบรมเข้มประสบการณ์์วิชาชีพมหาบัณฑิตหรือเสริมประสบการณ์์มหาบัณฑิต ในภาคการศึกษาสุดท้ายก่่อนสำเร็จการศึกษา เพื่่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้อยู่ร่วมกันและร่่วมฝึกปฏิบัติทักษะที่่จำเป็นของวิชาชีพ ตลอดจนเพื่่อพััฒนาบุคลิกภาพ ประสบการณ์วิชาชีพ คุณธรรม จริยธรรมตลอดจนจรรยาวิชาชีพตามสาขาวิชาที่่ศึกษา